ประวัติความเป็นมา
ประวัติความเป็นมา
ภาควิชาออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ภาควิชาออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดิมใช้ชื่อว่า "ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์" ทำการสอนนิสิตแพทย์ การวิจัยและให้การบริการ รักษาพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกข้อและอวัยวะที่เกี่ยวข้อง เช่น กล้ามเนื้อ เอ็น และเส้นประสาทส่วนปลายรวมทั้งกระดูกสันหลัง สถานที่ทำงานแรกเริ่มตั้งอยู่ที่ ตึกเจริญ-สมศรีเจริญรัชต์ภาคย์ ภายในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
แรกเริ่มจากการก่อตั้งคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ได้สืบเนื่องมาจากเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล (รัชกาลที่ 8) เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานปริญญาบัตรและอนุปริญญาบัตรแก่ผู้จบหลักสูตร แพทย์ และพยาบาล ณ ศิริราชพยาบาลเมื่อปี พ.ศ. 2489 และทรงมีพระราชปรารภว่า "พระองค์ท่านต้องการให้มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ผลิตแพทย์เพิ่มขึ้นเพื่อให้ เพียงพอที่จะช่วยเหลือประชาชน”
เพื่อเป็นการฉลองพระราชปรารภดังกล่าว รัฐบาลในขณะนั้นจึงได้อนุมัติงบประมาณสำหรับขยายการรับนักศึกษาแพทย์เพิ่มขึ้น เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของประเทศ จำนวนประมาณปีละ 200 คน แต่เนื่องจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมีสถานที่จำกัด จึงมีความจำเป็นที่จะต้องตั้งโรงเรียนแพทย์แห่งใหม่ขึ้น และรัฐบาลพิจารณาเห็นว่า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ของสภากาชาดไทย ซึ่งเคยเป็นโรงเรียนการแพทย์ทหารบกมาก่อน มีสถานที่และจำนวนเตียงผู้ป่วยมากพอ เหมาะสมที่จะเปิดเป็นโรงเรียนแพทย์ได้ จึงมีการติดต่อระหว่างมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข กับสภากาชาดไทย และตกลงในหลักการร่วมกันที่จะเปิดคณะแพทยศาสตร์ขึ้นใหม่ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์แห่งนี้
เมื่อรัฐบาลได้ทำการตกลงกับสภากาชาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้มีพระราชกฤษฎีกาประกาศตั้ง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2490 และให้บังคับใช้ในวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2490 ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชาอันถือว่าเป็นวันมงคลยิ่ง โดยศาสตราจารย์พลตรีพระยาดำรงแพทยาคุณ ได้รับเลือกให้เป็นคณบดีท่านแรก
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้เปิดภาคเรียนเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2490 มีภาควิชารวม 10 ภาค มีนักศึกษาปีแรก 67 คน สังกัดมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ในสมัยก่อตั้งภาควิชาออร์โธปิดิกส์ แต่เดิมสังกัดอยู่กับภาควิชาศัลยศาสตร์ โดยมีอาจารย์แพทย์ปฏิบัติงานด้านการสอนและรักษาพยาบาลรุ่นแรกคือ ศาสตราจารย์นายแพทย์ เล็ก ณ นคร และ ศาสตราจารย์นายแพทย์สมัค พุกกะณะเสน
ในปี พ.ศ. 2507 จึงได้รับการพิจารณาจากมหาวิทยาลัยให้แยกภาควิชาออกจากภาควิชาศัลยศาสตร์ และใช้ชื่อว่าภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์ มีศาสตราจารย์นายแพทย์ เล็ก ณ นคร ดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาเป็นท่านแรก มีอาจารย์ประจำในภาควิชาฯ อีก 2 ท่าน คือ ศาสตราจารย์นายแพทย์ สมัค พุกกะณะเสน และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ สมิทธ์ สิทธิพงศ์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2508 มีนายแพทย์วินัย พากเพียร เข้ามาเป็นอาจารย์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งท่าน ในปี พ.ศ. 2509 ก็มีนายแพทย์ตรง พันธุมโกมล เข้ามาเป็นอาจารย์อีกหนึ่งท่าน รวมเป็นคณาจารย์ในภาควิชาฯ ขณะนั้น 5 ท่าน
ในวันที่ 1 ตุลาคม 2510 คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ก็ได้โอนมาสังกัดในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเปลี่ยนชื่อเป็นคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในวันที่ 14 สิงหาคม 2523 ทางทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐก็ได้อนุมัติเปลี่ยนชื่อภาควิชาฯ ใหม่เป็น "ภาควิชาออร์โทปิดิกส์และเวชศาสตร์ฟื้นฟู" ต่อมาในปี พ.ศ.2540 แผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟูได้แยกภาคออกไปตั้งใหม่เอง ปัจจุบันภาควิชาฯ มีชื่อเป็นทางการว่า "ภาควิชาออร์โธปิดิกส์"
ถึงแม้ว่าจะเป็นภาควิชาและมีแพทย์ประจำภาควิชาแล้ว ในการปฏิบัติงานในระยะแรกผู้ป่วยชาย หญิงและเด็กก็ยังใช้เตียงร่วมกับภาควิชาศัลยศาสตร์ ต่อมาเมื่อภาควิชากุมารเวชศาสตร์ซึ่งมีผู้ป่วยเด็กอยู่ที่ตึกมาลินี ได้ย้ายมาตึกหลุยส์ทีเลียวโนเวนล์ ภาควิชาฯ จึงได้ใช้ตึกมาลินีบนสำหรับผู้ป่วยเด็ก และตึกมาลินีล่างสำหรับผู้ป่วยหญิงและชาย
ต่อมาสภากาชาดไทยได้ขอบริจาคเงินจากคุณหญิงสมศรี เจริญรัชต์ภาคย์ จำนวน 2 ล้านบาท และคณะแพทยศาสตร์ได้ของบประมาณแผ่นดินสมทบอีก 3 ล้านบาท รวมทั้งมีผู้บริจาคสมทบอีกจำนวนหนึ่งนำมาสร้างตึกเจริญ-สมศรี เจริญรัชต์ภาคย์ ขึ้น อาคารนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2515 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้เสด็จมาเปิดตึกนี้เป็นทางการเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2520 ตึกนี้เป็นอาคาร 7 ชั้น ชั้นล่างเป็นหน่วยเวชศาสตร์ฟื้นฟู ชั้น 2 เป็นสำนักงานของภาควิชาฯ ชั้น 3 เป็นห้องการเรียนการสอน ห้องสมุด ห้องทำงานแพทย์ ส่วนชั้น 4, 5, 6 เป็นหอผู้ป่วยทาง ออร์โธปิดิกส์ และสุดท้ายชั้น 7 เป็นห้องประชุมใหญ่ และห้องพักแพทย์ประจำบ้าน
ปี 2560 ฝ่าย/ภาควิชาออร์โธปิดิกส์ ย้ายสำนักงานชั่วคราว ณ ตึกคัคณางค์ ชั้น 8 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปี 2563 ฝ่าย/ภาควิชาออร์โธปิดิกส์ : ย้ายกลับมาที่ อาคารรัตนวิทยาพัฒน์ ชั้น 11,12 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย / คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถ.พระราม 4 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
วันที่ 29 ตุลาคม 2564 :: " ติดป้ายภาควิชาออร์โธปิดิกส์ "
วันที่ 26 มีนาคม 2567 ภาควิชาได้ทำป้ายห้องประชุม โดยใช้ชื่อว่า ห้องประชุม "เจริญ-สมศรี เจริญรัชต์ภาคย์"
วันที่ 1 สิงหาคม 2567 "ติดภาพกิจกรรม ด้านข้างห้องประชุมเจริญสมศรีฯ "
ระบบการบริหารจัดการ
เพื่อให้อำนวยความสะดวกในการให้บริการ ภาควิชาฯ ได้บริหารจัดการสถานที่ให้เป็นระบบ โดยกำหนดสถานที่ติดต่อดังนี้
- ชั้น 11 การเรียน-การสอน สำหรับนิสิตแพทย์ ปี 5,6 และห้องพักคณาจารย์
- ชั้น 12 ห้องธุรการ , ห้องประชุม , Conference สำหรับแพทย์ประจำบ้าน , และห้องพักคณาจารย์
ปรัชญา คณะแพทยศาสตร์ :: "แพทย์จุฬาฯ คู่กาชาดไทย วิชาการก้าวไกลสู่สากล รับใช้ปวงชนด้วยคุณธรรม"
ยุทธศาสตร์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พ.ศ. 2566-2568
วิสัยทัศน์
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นสถาบันต้นแบบ
ทางการแพทย์ที่มีคุณธรรม ด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับนานาชาติ
พันธกิจ
- ให้บริการรักษาพยาบาล ฟื้นฟูสมรรถภาพ ป้องกันโรคและสร้างเสริมสุขภาพที่เป็นเลิศด้วยการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องและการสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์และการพยาบาล
- สนับสนุนการค้นคว้าวิจัย ฝึกอบรม และบริการวิชาการที่เป็นแหล่งอ้างอิงได้ในระดับสากล
- บริหารจัดการองค์กรให้มีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพทางการเงินมีธรรมาภิบาล เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และสร้างเสริมคุณภาพชีวิตของบุคลากร
ทำเนียบ หัวหน้าภาควิชา ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบันได้แก่ .. รายชื่อ
1. | ศ.น.พ. เล็ก ณ นคร | พ.ศ.2507 - 2511 | 2511 | ||
2. | ศ.นพ. สมัค พุกกะณะเสน | พ.ศ.2511 - 2523 | 2523 | ||
3. | ผศ.นพ. สมิทธ์ สิทธิพงศ์ | พ.ศ.2523 - 2527 | 2527 | ||
4. | รศ.นพ. ตรง พันธุมโกมล | พ.ศ.2527 - 2531 | 2531 | ||
5. | รศ.นพ. วินัย พากเพียร | พ.ศ.2531 - 2535 | 2541 | ||
6. | รศ.นพ. ชายธวัช งามอุโฆษ | พ.ศ.2535 - 2543 | 2543 | ||
7. | ศ.นพ. พิบูลย์ อิทธิระวิวงศ์ | พ.ศ.2543 - 2549 | 2549 | ||
8. | ศ.นพ. ประกิต เทียนบุญ | พ.ศ.2549 – 2553 | 2554 | ||
9. | รศ.นพ. ยงศักดิ์ หวังรุ่งทรัพย์ | พ.ศ.2553 – 2557 | 2557 | ||
10. | ศ.นพ.อารี ตนาวลี | พ.ศ.2557 – 2561 | 2561 | ||
11. | ศ.นพ.สมศักดิ์ คุปต์นิรัติศัยกุล | พ.ศ. 2561 - 2564 | 2564 | ||
12. | ศ.นพ.วิชาญ ยิ่งศักดิ์มงคล | พ.ศ. 2564 - 2568 | 2568 | ||
13. | รศ.นพ.กวี ภัทราดูลย์ | พ.ศ. 2568 - ปัจจุบัน | - |
คณาจารย์เกษียณอายุ
![]() |
ศ.นพ.เล็ก ณ นคร พ.ศ. 2511
|
..... | ![]() |
ศ.นพ.สมัค พุกกะณะเสน พ.ศ. 2523
|
ผศ.นพ.สมิทธิ์ สิทธิพงศ์ พ.ศ. 2527
|
รศ.นพ.ตรง พันธุมโกมล พ.ศ. 2531
|
|||
รศ.นพ.วินัย พากเพียร พ.ศ. 2541
|
![]() |
ศ.นพ.มานิตย์ ลิมปพยอม พ.ศ. 2542
|
||
![]() |
รศ.นพ.ชายธวัช งามอุโฆษ พ.ศ. 2543
|
![]() |
ศ.นพ.พิบูลย์ อิทธิระวิวงศ์ พ.ศ. 2549
|
|
![]() |
ศ.นพ.ประกิต เทียนบุญ พ.ศ. 2554
|
![]() |
รศ.นพ.ไพรัช ประสงค์จีน พ.ศ. 2554
|
|
![]() |
ศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ พ.ศ. 2554
|
![]() |
รศ.นพ.ยงศักดิ์ หวังรุ่งทรัพย์ พ.ศ. 2561
|
|
![]() |
รศ.นพ.ทวีชัย เตชะพงศ์วรชัย พ.ศ. 2562
|
![]() |
รศ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ยุกตะนันทน์ พ.ศ. 2563
|
|
![]() |
ศ.นพ.สมศักดิ์ คุปต์นิรัติศัยกุล พ.ศ. 2564
|
![]() |
รศ.นพ.วัชระ วิไลรัตน์ พ.ศ. 2566
|
.... คณาจารย์ปัจจุบัน....
ระบบการบริหารจัดการ
เพื่อให้อำนวยความสะดวกในการให้บริการ ภาควิชาฯ ได้บริหารจัดการสถานที่ให้เป็นระบบ โดยกำหนดสถานที่ติดต่อดังนี้
- อาคารรัตนวิทยาพัฒน์ ชั้น 12 :: ห้องธุรการ , ห้องประชุม , Conference สำหรับแพทย์ประจำบ้าน , และห้องพักคณาจารย์
- อาคารรัตนวิทยาพัฒน์ ชั้น 11 :: สำหรับ การเรียน-การสอน สำหรับนิสิตแพทย์ ปี 5 , 6 และ ห้องพักคณาจารย์
ทำเนียบหัวหน้าภาควิชาฯ
1. | ศ.น.พ. เล็ก ณ นคร | พ.ศ.2507 - 2511 | 2511 | ||
2. | ศ.นพ. สมัค พุกกะณะเสน | พ.ศ.2511 - 2523 | 2523 | ||
3. | ผศ.นพ. สมิทธ์ สิทธิพงศ์ | พ.ศ.2523 - 2527 | 2527 | ||
4. | รศ.นพ. ตรง พันธุมโกมล | พ.ศ.2527 - 2531 | 2531 | ||
5. | รศ.นพ. วินัย พากเพียร | พ.ศ.2531 - 2535 | 2541 | ||
6. | รศ.นพ. ชายธวัช งามอุโฆษ | พ.ศ.2535 - 2543 | 2543 | ||
7. | ศ.นพ. พิบูลย์ อิทธิระวิวงศ์ | พ.ศ.2543 - 2549 | 2549 | ||
8. | ศ.นพ. ประกิต เทียนบุญ | พ.ศ.2549 – 2553 | 2554 | ||
9. | รศ.นพ. ยงศักดิ์ หวังรุ่งทรัพย์ | พ.ศ.2553 – 2557 | 2557 | ||
10. | ศ.นพ.อารี ตนาวลี | พ.ศ.2557 – 2561 | 2561 | ||
11. | ศ.นพ.สมศักดิ์ คุปต์นิรัติศัยกุล | พ.ศ. 2561 - 2564 | 2564 | ||
12. | ศ.นพ.วิชาญ ยิ่งศักดิ์มงคล | พ.ศ. 2564 - 2568 | 2568 | ||
13. | รศ.นพ.กวี ภัทราดูลย์ | พ.ศ. 2568- ปัจจุบัน | - |
+++ รายนามคณาจารย์ปัจจุบัน +++
วิสัยทัศน์ / พันธกิจ ภาควิชาออร์โธปิดิกส์
วิสัยทัศน์ :
จักเป็นภาควิชา/ฝ่าย ออร์โธปิดิกส์ชั้นนำของประเทศ ที่ประสาทความรู้ด้านทฤษฎีและภาคปฏิบัติแก่ นิสิตแพทย์ บัณฑิตแพทย์ และ แพทย์ประจำบ้าน อย่างมีประสิทธิผล มุ่งบริการต่อผู้รับบริการด้วยคุณธรรมและจริยธรรมตามมาตรฐานวิชาชีพ สร้างงานวิจัยตอบสนองความต้องการของสังคม..
พันธกิจ :
1) ให้ความรู้แก่นิสิตแพทย์และบัณฑิตศึกษาด้านออร์โธปิดิกส์ตามหลักสูตรอย่างมีประสิทธิผล
2) ผลิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านออร์โธปิดิกส์ตามเกณฑ์มาตรฐาน
3) ให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยทางด้านออร์โธปิดิกส์อย่างครบวงจร
4) ค้นคว้าวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่อย่างต่อเนื่องและชี้นำสังคม
5) ให้บริการวิชาการทางด้านออร์โธปิดิกส์แก่หน่วยงานและประชาชน
6) สนับสนุนทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมแก่นิสิตแพทย์ แพทย์และเจ้าหน้าที่ ทุกระดับ
7) จัดสภาพแวดล้อมที่ดี สะดวกและปลอดภัยแก่ บุคลากรและผู้รับบริการ
8) ตรวจสอบและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
การบรรลุพันธกิจ
1 ). มาตรฐานของภาควิชาในระบบประกันคุณภาพการศึกษา (QA)
2 ). มาตรฐานของฝ่ายในระบบประกันคุณภาพการบริการ (HA)
ค่านิยม "จริยธรรม ความเป็นเลิศ ความภาคภูมิใจ นวัตกรรมและการเรียนรู้ ความรับผิดชอบต่อสังคม พัฒนาอย่างต่อเนื่อง สามัคคี" (MEDISCU+)
M | Morality | จริยธรรม หมายถึง การปฏิบัติงานที่คำนึงถึงกฎหมาย จริยธรรมวิชาชีพ มนุษยธรรมตามหลักการของสภากาชาดไทย และการบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล (Good governance) ได้แก่ โปร่งใส เป็นธรรมและตรวจสอบได้ |
E | Excellence | ความเป็นเลิศ หมายถึง การปฏิบัติงานที่มุ่งสู่ผลงานที่มีคุณภาพ (Quality) และความเป็นเลิศ มีความปลอดภัย รวดเร็ว ได้มาตรฐานระดับนานาชาติ และด้วยหัวใจ ที่สร้างความประทับใจแก่ผู้รับผลงาน ทั้งในด้านการรักษาพยาบาล การบริการ การเรียนการสอนและงานวิจัย |
D | Dignity | ความภาคภูมิใจ หมายถึง การปฏิบัติงานด้วยความเป็นมืออาชีพ นำสู่ความภาคภูมิใจในเกียรติและศักดิ์ศรีของตนเอง และสถาบันภายใต้พระนาม “จุฬาลงกรณ์” |
I | Innovation | นวัตกรรม หมายถึง การปฏิบัติงานอย่างสร้างสรรค์ สร้างนวัตกรรมของผลงานและกระบวนการทำงาน นำไปสู่ความกระชับ (Lean) ประสิทธิภาพ ความคล่องตัว ทำให้สามารถส่งมอบคุณค่าที่ดีขึ้นเสมอให้แก่ผู้รับผลงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สร้างเสริมความยั่งยืนขององค์กร |
S | Social Responsibility | ความรับผิดชอบต่อสังคม หมายถึง การปฏิบัติงานที่รับผิดชอบต่อสังคม เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม โดยคำนึงถึงและป้องกันผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากผลงานและการปฏิบัติงาน ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า สนับสนุนและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนในส่วนที่เกี่ยวข้อง |
C | Continuous Improvement | การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หมายถึง การปฏิบัติงานที่ควบคู่ไปกับการติดตาม ทบทวน เรียนรู้ และปรับปรุงผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง |
U | Unity | ความสามัคคี หมายถึง การปฏิบัติงานร่วมกันเป็นทีม เพื่อนช่วยเพื่อน สมัครสมานสามัคคี ยึดถือเป้าหมายและประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักในการทำงานร่วมกัน |
+ | Plus | ความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง หมายถึง การปฏิบัติงานที่มีการเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทั้งที่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าและสิ่งที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน เป็นปัจจัยเสริม (บวก) ซึ่งสร้างความยั่งยืน มั่นคงให้กับองค์กร ทั้งในปัจจุบันและอนาคต |
ปรัชญา คณะแพทยศาสตร์ :: "แพทย์จุฬาฯ คู่กาชาดไทย วิชาการก้าวไกลสู่สากล รับใช้ปวงชนด้วยคุณธรรม"
ยุทธศาสตร์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พ.ศ. 2566-2568
วิสัยทัศน์
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นสถาบันต้นแบบทางการแพทย์ที่มีคุณธรรม ด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับนานาชาติ
พันธกิจ
- ให้บริการรักษาพยาบาล ฟื้นฟูสมรรถภาพ ป้องกันโรคและสร้างเสริมสุขภาพที่เป็นเลิศด้วยการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องและการสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์และการพยาบาล
- สนับสนุนการค้นคว้าวิจัย ฝึกอบรม และบริการวิชาการที่เป็นแหล่งอ้างอิงได้ในระดับสากล
- บริหารจัดการองค์กรให้มีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพทางการเงินมีธรรมาภิบาล เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และสร้างเสริมคุณภาพชีวิตของบุคลากร
ตราสัญญลักษณ์ (LOGO) ภาควิชาออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย